มือถือ 2 SIM คืออะไร

ในสมัยก่อนนั้น ค่าโทรมือถือแพงมาก ช่วงนั้นพอมีการตั้งโต๊ะมือถือ แค่นาทีละ 2 บาทนี่ถือว่าถูกมาก ต่อมาผู้ให้บริการได้ปรับราคาลงมาแข่งขันกันตั้งแต่ 2 บาท 1.75 / 1.50 / 1.25 / 0.75 จนหล่นลงมาที่ 50 สตางค์และ 25 สตางค์ตามลำดับ จำได้ว่าหลายคนปิดเครื่อ ถอดแบต เปลี่ยนซิม พฤติกรรมคนพกหลายซิมเยอะขึ้น กลางวันบุฟเฟ่ต์ซิมนึง กลางคืนอีกซิม จะซื้อมือถือ 2 เครื่องก็ไม่ไหวเพราะราคายังแพงอยู่

ทำให้หลายๆคนเริ่มมองหาถาดใส่ซิม มีอยู่ช่วงนึงที่ฮิตก็มากก็คือเป็นถาดใส่ซิมที่ได้ได้ 2 ซิมในเครื่องเดียว แต่ว่าจะใส่ไว้หลังแบตเตอรี่ แล้วเอาฝาครอบอีกที พอจะเปลี่ยนซิมทีก็กดรหัส หรือไม่ก็ต้องรีสตาร์ทมือถือใหม่

ช่วงหลังๆมือถือแบบ 2 ซิมมีราคาถูกลง จากเมื่อก่อนที่หลายต่อหลายคนไม่อยากจะพกมือถือหลายเครื่อง อยากจะพกมือถือเครื่องเดียวใช้งานได้ 2 ซิมพร้อมกัน ตลาดมือถือสองซิมนั้นเปลี่ยนแปลงเร็วมาก จากช่วงแรกๆที่เป็นแบบใช้งานทีละซิม เวลาจะเปลี่ยนซิมก็ต้องรีสตาร์ทแล้วบูทมือถือใหม่เสียก่อน เราจะพาคุณไปเลือกมือถือ 2 SIM กัน

 จาก เมื่อก่อนที่มีพ่อค้าหัวใสคิดถาดใส่ 2 ซิมขึ้นมา บางคนอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า "ฝาหลัง 2 SIM นั่นคือการขายฝาหลังมือถือที่ประกอบเพื่อใส่ซิมการ์ด 2 ใบได้ แต่ความหนาจะโป่งออกมานิดนีง เพื่อใส่กับถาดซิมการ์ดบนมือถือ แล้วอ้อมหลังแบตเตอรี่แยกออกมาเป็น 2 ซิม แต่จะจำกัดการใช้งานแค่บางรุ่น เพราะว่ามีปัญหาเรื่องฝาหลังปิดไม่ได้เพราะความหนาของซิมการ์ด (หากจำได้ในหลายๆกระทู้จะมีการถามว่ามีฝาหลังรุ่นนั้น รุ่นนี้ขายหรือไม่) แถมยังมีแบบซิมตัด ก็คือตัดหั่นครึ่งซิมให้ทั้ง 2 ซิมใส่บนถาดใส่ซิมอันเดียว ซึ่งอันนี้น่าเสียดายมากๆ เพราะจะต้องตัดซิม มีคีมตัดเป็นเรื่องเป็นราว แม้จะตัดได้เนียนยังไงก็น่าเสียดายอยู่ดี แต่ก็มีการพัฒนาเป็น Adaptor ใส่ให้ซิมมีขนาดปกติเมื่อเราไม่ได้ใช้โปรโทรถูกแล้ว แต่กระนั้นหลายคนก็เสียดายซิมการ์ดสวยๆไม่อยากโดนตัดซิม จึงเริ่มมีการพัฒนามือถือ 2 SIM ขึ้นมา พ่อค้าหัวใสก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่จีนของเรานั่นเอง

 ดูสเปคก่อนเลือกซื้อ

สเปค มือถือ 2 SIM นั้น ผู้ใช้จะต้องมีความรู้พื้นฐานเสียก่อนว่า คำว่า Standby 2 SIM นั่นคือใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมแบบ Real Time แต่หากเป็นแบบที่ 2 SIM Swap ก็คือต้องสลับกันใช้ เวลาจะใช้ก็เลือกเมนูว่าจะ Active ที่ SIM ไหน แบบนี้ก็ไม่ต่างจากการเปลี่ยนซิมเอง ดีกว่าแค่ตรงนี้ไม่ต้องปิดเครื่อง ถอดแบต เปลี่ยนซิมบ่อยๆ แต่ยังไงก็คงต้องปิดเปิดเครื่องใหม่อยู่ดี (เลือก Active SIM ที่ต้องการ แล้วเครื่องจะ Restart เอง) ซึ่งก็ไม่สะดวก ดังนั้นทางที่สะดวกที่สุดก็คือเลือกมือถือ 2 SIM Real Time Standby นั่นเอง

รู้จักเครือข่าย

 จาก ตัวอย่าง มือถือ iLink iL8800T Duo รองรับทั้ง GSM + GSM และ GSM + CDMA แถมยังมี Flight Mode ให้เลือกเวลาต้องการฟังเพลงในเครื่่องบินโดยไม่รบกวนการบินด้วย

ใน เมื่อเรารู้ว่าควรจะเลือกมือถือ 2 SIM Real time แล้ว อันดับถัดไปก็คือ มือถือ 2 SIM จะมีเขียนไว้ว่า G + G หรือ GSM + GSM เราว่าดูกันว่า มันคืออะไรกันแน่

หากคุณใช้ AIS / Dtac / Truemove พวกนี้เป็นคลื่น GSM ทั้งนั้น โดย AIS = 900MHz / Dtac & Truemove = 1800MHz อย่าไปหลงกลจับไปปนกับคำว่า GSM Advance นะครับ จริงๆคำว่า GSM คือเครื่องหมายการค้าของระบบคลื่นโทรศัพท์

เมื่อก่อนเราอาจจะเคยได้ ยิน GSM 1800 นั่นคือระบบของ GSM ที่คลื่น 1800MHz แต่สำหรับ AIS จะเป็น GSM Advance ที่ 900MHz ที่เราไม่ค่อยมีปัญหาในการเลือกซื้อมือถือซิมเดียวก็คือว่า มือถือทั่วๆไปก็จะรองรับ Tri-band [900/1800/1900MHz] หรือ Quad-band [850 (อันนี้ไม่มีในบ้านเรา) / 900(AIS) / 1800 (Dtac, Truemove) / 1900 (Thai Mobile) น่าเสียดายว่าตอนนี้ Thai mobile ยกเลิกการให้บริการในบางส่วนไปแล้ว ดังนั้นหากคุณใช้งานในเมืองไทย แน่นอนว่าไม่พ้น GSM 900 / 1800 ชัวร์ รับรองว่าคว้ามือถือ G+G (GSM + GSM) ไปครองได้เลย จะจับคู่ AIS เติมเงินกับรายเดือนก็สะดวกดี จะเอา Dtac กับ AIS หรือ Dtac กับ Truemove เสือ 2 ตัวก็อยู่ในถ้ำเดียวกันได้สบายเลย

ตอนจะโทรก็แค่จำว่า ซิมไหนเป็นซิมหลัก ซิมที่ 1 หรือซิมที่ 2 เพราะมือถือ 2 SIM จะมีปุ่มเลข 1 และ 2 ให้เลือกกดโทรอยู่แล้ว

แต่ หากคุณเห็นว่ามือถือของ Hutch นั้นโปรแสนถูก (แต่โทรเข้า AIS ยากจัง) อันนี้ก็จะเป็นคลื่น CDMA โดยจะมีของ Hutch และ CAT CDMA ถ้าเป็นแบบนี้ แทนที่จะพกมือถือของ Hutch เครื่องนึง กับ GSM อีกเครื่องนึง ก็มองหามือถือ 2 SIM แบบ G+C [GSM+CDMA] ดีกว่า

ทบทวนกันดูสักรอบก่อนเลือกซื้อ

- ซื้อมือถือมาใช้ AIS + Dtac หรือ Truemove หรือแม้แต่ AIS ด้วยกันเองแต่เป็นรายเดือนกับเติมเงิน ก็เลือกมือถือ GSM + GSM แบบ Real Time Standby ไปเลย ไม่ต้องคิดอะไรมาก

- ซื้อมือถือมาใช้ Hutch / CAT CDMA กับ GSM [AIS / Dtac / Truemove] ก็เลือก GSM + CDMA ไปเลย แบบนี้สะดวกเพราะปกติเครื่อง Hutch ฟังวิทยุ MP3 ได้ แต่ไม่ค่อยมีลูกเล่นอะไรมากนัก

จริงๆมือถือของ Hutch ก็น่าใช้หลายตัว แต่สำหรับคนที่ไม่อยากพกมือถือหลายเครื่อง บางคนใช้ GSM + GSM พก 2 เครื่องอยู่แล้ว พอทำงานต้องติดต่อเยอะ บริษัทก็ให้มือถือ Hutch มาอีกเบอร์ ถ้าแบบนี้มือถือ 2 ซิมแบบ GSM + CDMA นั้นช่วยได้เยอะ ถ้าวันหยุดไม่อยากคุยเรื่องงานก็จัดการเปลี่ยนเป็นอีกซิมคือ GSM + GSM เอาโปรวันหยุดไว้คุยกับคนรักดีกว่า

ขอให้สนุกกับการใช้งานมือถือ 2 SIM นะครับ ไม่ว่าคุณจะใช้เครือข่ายใด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการได้คุยกับคนที่เรารักและห่วงใย ไม่เพียงแต่คนรัก แฟน แต่ยังรวมไปถึงคุณย่า คุณยาย คุณปู่ ที่ท่านรอเราไปเยี่ยมในช่วงเทศกาลหรือโทรไปถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของท่านนะ ครับ